[Review] Bad Moms – เป็นแม่มันเหนื่อยนะ

แม่จะเป็นหนังเกี่ยวกับแม่ แต่ “Bad Moms” ก็ดูจะฉีกออกไปจากแนวเดียวกัน เพราะหนังเกี่ยวกับแม่ส่วนใหญ่ สุดท้ายมักจะยืนพื้นอยู่บนฐานของหนังครอบครัว ที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี โดยมักมีเป้าหมายสำคัญคือการทำให้ “ลูก” ได้เข้าใจและซาบซึ้งในความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ แต่กับ Bad Moms คนที่ต้องการสื่อสารหลักๆ ก็คือ เหล่าแม่ๆ ด้วยกันนี่แหละ มันเลยเหมือนสมาคมที่พวกแม่ๆ ได้มาระบายความรู้สึกใส่กัน ในตอนที่เด็กๆ ไม่อยู่ด้วย ตัวหนังจึงไม่ได้มาในทางใสๆ หากแต่มีทั้งคำหยาบ เหล้า ยา ปลาปิ้ง เต็มไปหมด (แม้จะไม่เยอะเท่าหนังตลกเรท R เรื่องอื่นๆ ก็ตาม) หนังไม่ได้ต้องการให้ลูกๆ มาซาบซึ้งกับความเป็นแม่ แต่แค่ให้รู้ว่า “กรุเหนื่อย”

หลังเล่าถึง “Amy Mitchell” (Mila Kunis) คุณแม่ยังสาวลูกสอง ที่พยายามทำทุกบทบาทในชีวิตไม่ว่าจะเป็นการเป็นแม่ ภรรยาที่น่ารัก ลูกจ้างที่ขยันขันแข็ง และสมาชิกสมาคมผู้ปกครองที่ดี แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ กลับกลายเป็นวิกฤตมากขึ้นเท่านั้น แถมวิกฤตยังมาพร้อมๆ กันด้วย เมื่อลูกๆ เริ่มต่อต้านความเป็นแม่ของเธอ สามีคบชู้ เจ้านายไม่เห็นค่า และสมาคมผู้ปกครองดูเป็นเรื่องไร้สาระในสายตาเธอ นี่ยังไม่รวมถึงการที่เธอต้องเป็นแม่ตั้งแต่อายุ 20 ทำให้ Amy รู้สึกลึกๆ มาตลอดว่า เธอสูญเสียชีวิตช่วงวัยรุ่นไป ทั้งหมดนี้เดินทางจุดแตกหัก แล้วระเบิดออกมา…พอกันทีกับความเป็นแม่แบบเดิมๆ

สิ่งที่ Bad Moms บอกกับเหล่าแม่ๆ คือ การเป็นแม่นั้นยาก แต่การเป็นแม่ในยุคสมัยนี้นั้น “โคตรยาก” เลย เพราะสังคม ครอบครัว สามี ไปจนถึงลูกๆ จะมีชุดความคิดหนึ่งที่ใช้เป็นตัวเทียบว่า แม่ในอุดมคติที่ควรจะเป็นนั้นเป็นแบบไหน ซึ่งปรากฏว่า ส่วนใหญ่มักออกมาในทางแม่ที่ต้องรับภาระในการจัดการเรื่องหยุมหยิมให้กับลูกและครอบครัว ต้องตื่นเช้าทำอาหารให้ลูก พาลูกไปส่งโรงเรียนตามเวลา พาลูกไปเรียนพิเศษ ช่วยลูกทำการบ้าน ไม่ปล่อยให้ลูกเถลไถล แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่เข้มงวดเกินไปจนลูกด่า กระนั้นถ้าปล่อยลูกมากเกินไป ก็อาจโดนหาว่าไม่ใส่ใจอีก คือมันโคตรยากเลยในยุคสมัยนี้ที่แม่ไม่ได้เป็นแค่แม่บ้าน แต่ยังต้องทำงานของตัวเอง และยังต้องเป็นภรรยาที่ดีควบคู่ไปอีก

นี่คือความยากลำบากของการเป็นแม่ ซึ่งคนนอกไม่ค่อยได้รู้ แม้แต่ “พ่อ” หรือสามีของ Amy Mitchell ในเรื่อง ก็คิดว่าการเป็นแม่นั้นง่าย และไม่ทำอะไรมากไปกว่าการนั่งจับกุมนินทากับบรรดาพวกแม่ๆ ด้วยกัน (แน่นอนความไม่เข้าใจกันนี้ ทำให้ชีวิตคู่หลายคู่ถึงทางตันเมื่อมีลูก) ส่วนลูกนี่ไม่ต้องพูดถึง หลายคนเกลียดความเจ้ากี้เจ้าการของแม่ เหมือนที่ Amy พูดกับเพื่อนๆ ว่า ลูกๆ จะรู้ว่าเรารักเขาแค่ไหน ก็ตอนที่โตแล้วเท่านั้นแหละ

จริงๆ ไม่ใช่แค่ “แม่” ที่โดนความคาดหวังของสังคมขีดเส้น แม้แต่ “พ่อ” เองก็โดนเหมือนกัน แนะนำให้หา “Daddy’s Home” หนังตลกครอบครัวที่นำแสดงโดย Will Ferrel และ Mark Wahlberg มาดูต่อเลย แม้ว่าเรื่องจะไม่ได้เหมือนกับ Bad Moms เสียทีเดียว เพราะ Daddy’s Home เน้นเรื่องราวการแข่งขันเป็นที่รักของลูกๆ ระหว่างพ่อจริงๆ กับพ่อเลี้ยง แต่ในแง่หนึ่ง Daddy’s Home ก็ให้ภาพพ่อที่สังคมคาดหวังเช่นกัน ซึ่งมันกลายเป็นปัญหากับพ่อที่ไม่ได้มาในทางนั้น

ในขณะที่เราคาดหวังแม่ในการเป็นคนคอยจัดการเรื่องหยุมหยิมต่างๆ ให้กับเรา เรากลับคาดหวังว่าพ่อต้องเป็นคนที่มีความเป็น Role Model ให้เรา ต้องมีความเท่ เป็นที่นับหน้าถือตา ไม่เจ้ากี้เจ้าการ สามารถพาเราไปเที่ยวไปทำอะไรก็ได้โดยที่เราอยากทำ โดยไม่ดุด่าว่าเรายังเป็นเด็ก ที่สำคัญต้องงัดข้อกับแม่ได้ มันเลยกลายเป็นปัญหาสำหรับพ่อที่ไม่ได้มีความเท่ ความคูล และดูเจ้าระเบียบกับเรายิ่งกว่าแม่เสียอีก ทั้งที่ พ่อแบบนี้ก็รักลูกไม่แพ้พ่อแบบเท่ๆ หรอกนะ

“Bad Moms” จึงเป็นหนังที่พยายามก้าวผ่านคติความเป็นแม่แบบเดิมๆ แม้ว่าช่วงท้ายของหนังจะไม่มีอะไรเหนือคาด แต่ก็เป็นหนังที่ดูสนุก มีมุขให้หัวเราะได้เรื่อยๆ แม้ตัวเราจะไม่ใช่แม่คนก็ตาม

Share

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Avatar photo
Latest posts by จุรีพร โนนจุ่น (see all)