[Review] Bad Neighbours – เพื่อนบ้านเลว (Spoil)

หมายเหตุ: มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ (Spoil)

มีเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับชื่อหนังเรื่องนี้ คือในสหรัฐฯ หนังเรื่องนี้ทำตลาดโดยใช้ชื่อว่า “Neighbors” ส่วนตลาดโลกใช้ชื่อว่า “Bad Neighbours” นัยว่าเติมคำว่า Bad ลงไปเพื่อเน้นย้ำแนวทางของเรื่องให้ชัดเจนขึ้น ส่วนคำว่า Neighbors จะสังเกตว่าเขียนต่างกันนิดหน่อย โดยชื่อที่ใช้ในตลาดโลกจะมีการเพิ่มตัว “u” เข้ามา อันนี้เป็นไปตามลักษณะภาษาอังกฤษ “Neighbors” เป็นการสะกดอังกฤษแบบอเมริกัน ส่วน “Neighbours” เป็นการสะกดอังกฤษแบบอังกฤษ แต่ไม่ว่าจะชื่อไหน เนื้อเรื่องก็เหมือนกันคือว่าด้วย คู่สามีภรรยาลูกอ่อน “Mac Radner” (Seth Rogen) และ “Kelly Radner” (Rose Byrne) ที่ต้องหาวิธีรับมือกับเพื่อนบ้านมหา(บรร)ลัย นำโดย “Teddy Sanders” (Zac Efron) ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ และชอบจัดปาร์ตี้ส่งเสียงดังอึกทึกครึกโครมในยามค่ำยืน

Bad Neighbours วางตัวเองเป็นหนังตลก และเป็นตลกในแนวแบบเสื่อมๆ ที่ทั้งเรื่องจะเต็มไปด้วยคำหยาบ (แม้ว่าซับจะแปลให้ซอฟท์ลงแล้ว แต่ก็ยังถือว่าหยาบอยู่ดี) แอลกอฮอล์ กัญชา และเรื่องใต้สะดือ โดยเฉพาะเจ้าโลกที่ดูจะถูกพูดถึงเหลือเกิน หนังอาจไม่ได้ถึงขั้นสุดขั้วแบบ The Wolf of Wall Street แต่ก็จัดเป็นหนังที่บ้าระห่ำใช้ได้ ถ้ารับกับมุขตลกแบบนี้ได้ ก็จะรู้สึกสนุกกับมัน แต่ถ้าไม่คุ้น/ไม่ชอบก็จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจพอควร อย่างไรก็ตาม นอกจากมุขแบบเสื่อมแล้วๆ Bad Neighbours มีมุขอีกแบบที่ขำไม่น้อย เพียงแต่อาจต้องอาศัยพื้นฐานทำความเข้าใจบ้าง คือมุขแบบ “ช่องว่างระหว่างวัย” ซึ่งบางอย่างก็เก็ทบางอย่างก็ไม่เก็ท เพราะไม่ทันในสมัยนั้น แต่อันไหนที่เก็ทก็ชวนขำมากทีเดียว อย่างมุขแบบ Batman ยุคเก่ากับ Batman ยุคใหม่ ที่ส่วนตัวคิดว่าตลกกว่าบรรดามุขเสื่อมๆ ในหนังเสียอีก

การแทรกมุขตลกแบบช่องว่างระหว่างวัยเข้าไป เพราะ Bad Neighbours ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำสงครามระหว่างเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ยังพูดถึงช่วงวัยที่ต่างกัน ที่ทำให้มีทัศนคติบางอย่างไม่เหมือนกัน และอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งได้ ซึ่งในเรื่องก็คือการพบกันของเด็กมหาลัยวัย 20 ต้นๆ ที่เติบโตมากับ Batman ยุค Christian Bale กับคู่สามีภรรยาวัย 30 ต้นๆ ที่เติบมากับ Batman ยุค Michael Keyton ความน่าสนใจอีกอย่างของคู่ขัดแย้งในเรื่องนี้คือ มันไม่ใช่ในลักษณะของ ความดี vs. ความชั่ว หรือ คนดี vs. คนเลว เพราะแม้จะทำให้ดูเหมือนฝ่ายเด็กมหาลัยเป็นคนก่อเรื่อง แต่ฝั่งคู่สามีภรรยาก็แสบไม่แพ้กัน เราจะเห็นว่าทั้ง 2 คนก็เคยเป็นวัยรุ่นบ้าๆ เกรียนๆ มาก่อน และตอนนี้สิ่งเหล่านั้ก็ยังคงอยู่ จะแตกต่างจากในอดีตก็ตรง มันเป็นความระห่ำที่เริ่มมีลิมิตและความรับผิดชอบมากขึ้น โดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญก็คือ ลูกสาวของพวกเขา ขณะที่ฝั่งของ Teddy ความระห่ำของเขานั้นไม่มีลิมิต

ส่วนตัวเชื่อว่าทั้ง Mac และ Kelly ก็คงเข้าใจความรู้สึกของ Teddy เพราะพวกเขาก็เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน และถ้าให้ย้อนกลับไปก็คงจะเป็นแบบนั้นเหมือนเดิม เพียงแต่ ณ ตอนนี้พวกเขาคือพ่อแม่ของเด็กสาวอายุไม่ถึงขวบ พวกเขาก็มีหน้าที่ต้องปกป้องลูกเขาเช่นกัน จึงต้องประกาศสงครามกัน Teddy อาจมองว่า การเป็นผู้ใหญ่มันช่างแสนน่าเบื่อ เพราะมันเริ่มมีกรอบ มีความรับผิดชอบเข้ามาทำให้สนุกได้ไม่เต็มที่เหมือนวัยรุ่น แต่ในทางกลับกัน Mac และ Kelly ก็คงจะบอกว่า ชีวิตบางทีมันก็ไม่ได้มีแต่เรื่องความสนุก ความระห่ำ แต่ยังมีด้านอื่นๆ ในชีวิต ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็ต้องรอให้ถึงช่วงวัยนั้นเสียก่อน และเมื่อถึงตอนนั้นเราก็อาจได้แต่ขำๆ ว่า “ตอนนั้นตรูบ้าไปขนาดนั้นได้เลยเหรอ”

จะว่าไปนี่เป็นหนังที่น่าจะเหมาะกับกลุ่มรุ่นพี่ กลุ่มพี่ว๊าก กลุ่มห้องเชียร์ รวมถึงกลุ่มกิจกรรมชมรมต่างๆ ในมหาวิทยาลัย เพราะเด็กมหาลัยในเรื่องก็คือ กลุ่ม “Delta Psi” ซึ่งมีลักษณะไม่ต่างจากกลุ่มชมรมหนึ่ง Teddy เป็นประธานกลุ่ม เป็นรุ่นพี่ และเป็นพี่ว๊าก มีกิจกรรมรับน้อง และกิจกรรมเสื่อมๆ มากมายที่ให้รุ่นน้องทำ เป้าหมายของ Teddy ในการจัดปาร์ตี้ก็คือ อยากสร้างปาร์ตี้ที่น่าจดจำที่สุด เพราะถือเป็นธรรมเนียมของกลุ่มตั้งแต่ก่อตั้งมา โอเค มันอาจเป็นเรื่องไร้สาระในสายตาคนภายนอก แต่สำหรัีบคนในกลุ่มมันถือเป็นเกียรติยศสูงสุด ประเด็นคือในฐานะประธาน Teddy เริ่มอินกับความเป็น Delta Psi มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับในสังคมจริงๆ  ที่รุ่นพี่หลายคนเริ่มอินกับความเป็นรุ่นพี่ของตัวเอง และพยายามสร้างกรอบให้รุ่นน้องทำตาม โดยมีข้ออ้างสำคัญก็คือ มันเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อกันมาอย่างยาวนาน

ช่วงท้ายของเรื่อง Bad Neighbours เริ่มกลับมาตั้งคำถามกับ Teddy ว่าทำไมต้องอิน ต้องหมกหมุ่นกับการทำสงครามกับเพื่อนบ้านขนาดนั้น คำตอบที่เราได้จากในเรื่องก็คือ “เพราะเขากลัวกับอนาคต” กลัวจนไม่รู้ว่าชีวิตผู้ใหญ่ของเขาจะต้องเจอกับอะไร ดังนั้น สถานที่ปลอดภัยสุดสำหรับเขาก็คือ Delta Psi มันเป็นพื้นที่ที่ทำให้เขาสามารถรู้สึกควบคุมทุกอย่างได้ เป็นคำตอบที่พอจะอธิบายสังคมจริงๆ ว่าทำไมกลุ่มรุ่นพี่บางคนพยายามเหลือเกินให้รุ่นน้องเคารพได้เหมือนกัน ถ้าจบออกไปแล้วเป็นใหญ่ไม่ได้ อย่างน้อยขอเป็นใหญ่ในรั้วมหาวิทยาลัยก่อนละกัน แต่เอาเข้าจริง Bad Neighbours ไม่ได้ถึงขั้นต่อต้านโซตัสอะไรพวกนี้หรอก หนังยังให้ภาพความสนุกการทำกิจกรรมแบบกลุ่มนี้ เพียงแต่ก็เตือนๆ เราว่า “สนุกได้ แต่อย่าไปอินกับมันให้มากก็แล้วกัน”

น่าเสียดายที่หนังไม่ได้ลงลึกในประเด็นเหล่านี้มากนัก กว่าจะกล่าวถึงจริงๆ จังๆ ก็ช่วงท้าย เพราะหนังเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับฉากตลกเสื่อมๆ ในเรื่องแทน ซึ่งตรงนี้ก็น่าเสียดายอีกเช่นกัน ที่ฉากแก้เผ็ดต่างๆ ในเรื่อง ส่วนใหญ่เอามาใส่ไว้ใน Trailer หมดแล้ว ทำให้ดูไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ถ้าชอบมุขตลกแบบ 18+ และพอจะมีประเด็นให้ขบคิดบ้าง Bad Neighbours ก็เป็นตัวเลือกที่โอเค อีกอย่างที่สำคัญคือ “Stellar” ลูกสาวตัวน้อยของ Mac และ Kelly นั้น “น่ารักมาก” และแม้ทั้งเรื่องจะเต็มไปด้วยความเสื่อมในหลายด้าน แต่ทุกครั้งที่หนูน้อยออกมา ความเสื่อมทั้งหลายก็เหมือนจะโดนทำลายหายไปทันที

ความชอบส่วนตัว: 7/10 

Previous article[Review] Under the Skin – สวยสยองใต้ร่มผ้า (Spoil)
Next articleX-Men: ระดับของมนุษย์กลายพันธุ์

Avatar photo
Latest posts by จุรีพร โนนจุ่น (see all)