[Review] Ip Man 3 – เมีย / ไมค์ / หย่งชุน

หลังจากปล่อยให้เจ้าอื่นหยิบ “Ip Man” ไปทำซะหลายเรื่อง ก็ถึงคราวที่ “วิลสัน ยิป” (Wilson Yip) และ “เจินจื่อตัน” (Donnie Yen) จะกลับมาทวงบังลังก์อีกครั้ง กับ “Ip Man 3” ที่ถือเป็นภาคสุดท้ายอย่างเป็นทางการของไตรภาค Ip Man โดย วิลสัน ยิป ซึ่งเป็นผู้ปลุกกระแส Ip Man ให้กลับมาดัง และส่งให้เจินจื่อตันเป็นพระเอกนักบู๊แห่งยุคไป

Ip Man 3 ทิ้งช่วงจากภาค 2 ไปกว่า 5 ปี ขณะที่เวลาในเรื่องนั้นห่างจากภาคก่อนไม่เกิน 10 ปี หลังจากที่ยิปมันได้รับการยอมรับจากเหล่าครูมวยในฮ่องกง ทั้งยังสามารถกอบกู้ศักดิ์ศรีกังฟูจีนจากการดูถูกของเจ้าอาณานิคมอังกฤษได้แล้ว ยิปมันก็กลายเป็นหนึ่งในคนที่ได้รับการยอมรับนับถืออย่างสูงในเกาะฮ่องกง แต่ชีวิตสงบสุขของยิปมันก็โดนท้าทายอีกครั้ง เมื่อในภาคนี้เขาต้องเผชิญทั้งปัญหาส่วนตัว จากการอาการป่วยของภรรยา “หวิงชิง” (สงไต้หลิน) อิทธิพลของ “แฟรงค์” (Mike Tyson) ที่ต้องการยึดโรงเรียนที่ลูกชายของยิปมันเรียนอยู่มาเป็นของตัวเอง และการท้าทายของ “จงทินชี” (จางจิน) อีกหนึ่งผู้สืบทอดหมัดหย่งชุน ซึ่งต้องการพิสูจน์กับยิปมันว่า ใครกันแน่ที่จะเป็นปรมาจารย์หมัดหย่งชุนที่แท้จริง

จากเส้นเรื่องข้างต้น เห็นได้ว่า Ip Man 3 ประกอบด้วยเนื้อเรื่องย่อย 3 เรื่อง โดยแต่ละเรื่องดูเหมือนจะตั้งธงจากความคิดที่ว่า อยากให้ยิปมันเจออะไรในภาคนี้ ซึ่งก็จะได้ว่า

อยากเห็นด้านโรแมนติกของยิปมัน: โอเค แต่งเรื่องให้เมียยิปมันป่วยละกัน จะได้โชว์ด้านความรักสักหน่อย

อยากเห็นยิปมันสู้กับ Mike Tyson: เป็นจุดขายของภาคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะ Mike ก็ดังอยู่ คนอยากเห็นยิปมันต่อยกับ Mike แน่ๆ ประเด็นหลักอยู่ที่ฉากต่อสู้ ที่เหลือแต่งเรื่องยังไงก็ได้ให้ยิปมันมาเจอกับ Mike ให้ได้

อยากเห็นหย่งชุนปะทะหย่งชุน: เพราะที่ผ่านมายังไม่เห็นฉากต่อสู้แบบนี้มาก่อน มีแต่หย่งชุนปะทะมวยแบบอื่น หรือไม่ก็ปะทะมวยต่างชาติ น่าสนุกดีถ้าคนฝึกหย่งชุนสู้กันเอง ที่เหลือก็แต่งเรื่องยังไงก็ได้ให้มามาต่อยกันได้พอ

ปัญหาคือเส้นเรื่องทั้ง 3 มันแทบไม่เข้ากันเลย เหมือนเรื่องใครเรื่องมั่น เดี๋ยวยิปมันไปโผล่เส้นเรื่องโน้น แล้วมาโผล่เส้นเรื่องนี้ แม้มีความพยายามในการแต่งให้เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน แต่ก็ดูเป็นการแถเสียมากกว่า อันที่จริง นี่ไม่ใช่หนแรกที่หนัง Ip Man เป็นแบบนี้ เพราะอย่างภาคแรกก็จะสังเกตว่ามันแบ่งเป็น 2 เรื่องย่อย คือ ยิปมันปะทะกังฟู กับยิปมันปะทะญี่ปุ่น แต่ภาคนั้นค่อนข้างแบ่งอย่างชัดเจน ขณะที่ภาค 3 พยายามจะดำเนินเรื่องทั้ง 3 เส้นเรื่องไปพร้อมๆ กัน แต่หาจุดให้เข้ากันไม่ได้

ตัวละครในภาคก่อนที่กลับมาในภาคนี้มีแค่ยิปมัน หวิงชิง และนายตำรวจ ทำให้รู้สึกเหมือนขาดตอนไปจากภาคก่อนไปพอควร “บรู๊ซ ลี” ภาคนี้โตขึ้น มีบทมากขึ้น แต่ก็ยังดูเป็นตัวประกอบอยู่ดี เจินจื่อตันยังเล่นแข็งเหมือนเดิม แต่ด้วยสเน่ห์ของตัวละครยิปมันที่เก่งแต่อ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้พอมองข้ามเรื่องนี้ไปได้ จุดเด่นของภาคนี้ก็คงเป็นฉากต่อสู้ระหว่างยิปมันกับแฟรงค์นี่แหละ อาจเพราะได้ Mike Tyson มาเล่น ทำให้ทีมงานเกรงใจ การปะทะกันครั้งนี้จึงดูค่อนข้างสูสี ไม่ใช่ให้ยิปมันโชว์เทพเป็นหลักแบบภาคก่อนๆ กระนั้นก็แอบคิดว่าฉากต่อสู้มันน่าจะพีคได้มากกว่านี้อีก

ถือว่าเป็นการปิดฉากไตรภาคอย่างไม่ค่อยสมศักดิ์ศรีนัก แต่ก็พอแก้ขัดคนที่คิดถึงยิปมันในแบบเจินจื่อตันไปได้บ้าง

Avatar photo
Latest posts by จุรีพร โนนจุ่น (see all)