[Review] The Lego Ninjago Movie – ช่างโชคร้าย เกิดมามีพ่อเลว

“The Lego Ninjago Movie” เป็นเรื่องที่ 3 ในจักรวาลหนัง Lego ที่ยังคงพยายามรักษาสมดุล 3 ด้าน คือ ความสนุก สาระ และขายของ ตามแนวทางที่รุ่นพี่ทั้ง 2 เรื่องเคยวางไว้ น่าเสียดายที่ในขณะ The Lego Movie และ The Lego Batman Movie ผสมทั้ง 3 ด้านได้อย่างกลมกล่อม จนทำให้หนังประสบความสำเร็จ The Lego Ninjago Movie กลับปรุงออกมาได้ค่อนข้างจืดชืด และไม่สุดในด้านใดเลย แม้จะมีทั้ง 3 อย่างครบก็ตาม

“Ninjago” เป็นชื่อเซตของเล่นที่ Lego ผลิตขึ้นเมื่อปี 2011 และประสบความสำเร็จ จนมีการต่อยอดผลิตออกมาอีกหลายชุด รวมทั้งดัดแปลงเป็นทั้งเกมและทีวีซีรี่ส์มาแล้ว ซึ่ง The Lego Ninjago Movie เป็นครั้งแรกของการนำมาดัดแปลงเป็นหนังฉายโรง ซึ่งตัวหนังเล่าเรื่องราวของเหล่านินจาที่ทำหน้าที่ปกป้องเมือง Ninjago จากวายร้าย “Lord Gamando” ที่หมายจะยึดเมืองให้ได้ แต่แท้ที่จริงแล้วหนึ่งในนินจา “Lloyd” ก็คือลูกชายของ Lord Gamando นั่นเอง

ปัญหาอย่างแรกเลยคือ เราไม่เคยเล่น ไม่เคยรู้จักกับเซตของเล่น Ninjago มาก่อน นั่นทำให้เราไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นหรืออินมากมายกับการที่เซตของเล่นนี้ขึ้นจอ แถมยังค่อนข้างตะขิดตะขวงใจกับความจะจีนก็ไม่ใช่จะญี่ปุ่นก็ไม่เชิง ซึ่งก็สะท้อนมุมมองตะวันตกที่มองมายังตะวันออกที่มักผสมรวมๆ เอเชียตะวันออกเข้าด้วยกัน โดยแยกไม่ออกว่าจีน ญี่ปุ่น เกาหลี นั้นแตกต่างกันอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักที่ทำให้ The Lego Ninjago Movie เดินไปได้ไม่สุด น่าจะเป็นเพราะการพยายามตามรอย 2 เรื่องแรกมากเกินไป Lord Gamando ใน Ninjago ดูๆ ไปก็แทบไม่ต่างอะไรจาก Lord Business ใน The Lego Movie ซึ่งตบท้ายด้วยการให้ข้อคิดว่า “นายไม่ต้องพยายามเป็นคนเลวขนาดนั้นก็ได้” เพียงแต่สูตรนี้ใช้ไม่ได้ใน The Lego Ninjago Movie เพราะจังหวะเล่าที่ไม่คมเท่าเรื่องก่อน แถมยังไม่สามารถขยี้ปมของตัวเอกอย่าง Lloyd ได้มากพอ ทั้งเรื่องความรู้สึกเกลียดพ่อ การโดนกลั่นแกล้งจากคนในสังคมที่รู้ว่าเขาเป็นลูกวายร้าย การแสวงหาการยอมรับจากเพื่อนๆ หรือการคลี่คลายปมให้ทุกคนกลับมาคืนดีกัน ทุกอย่างเหมือนถูกเล่าอย่างรวบรัดจนเราแทบไม่อินกับอะไร

มุขตลกของเรื่องแม้จะมีหลายมุขให้พอขำขัน แต่เทียบไม่ได้เลยกับมุขใน 2 เรื่องก่อน จุดแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ The Lego Ninjago Movie พยายามเน้นมุขตลกแบบเรี่ยราด 5 บาท 10 บาทก็เล่น อาจเพราะคนสร้างเองก็คงตระหนักว่า ชื่อ Ninjago อาจไม่ได้ Mass มากพอสำหรับคนทั่วไป เลยพยายามเน้นมุขที่เข้าใจง่ายๆ ไว้ก่อน ซึ่งจะแตกต่างจาก 2 เรื่องก่อนที่จะให้ความสำคัญกับมุขตลกเนิร์ดๆ ที่ถ้าใครมีความ Geek ระดับหนึ่งจะขำมากมายเลย อย่าง The Lego Movie ก็จะเป็นมีมุขล้อหนัง ล้อ Pop Culture หรือ The Lego Batman Movie ที่ชัดเจนว่าล้อ Batman แต่กับ The Lego Ninjago Movie นี่ยังไม่มีตรงนั้น แม้ช่วงหนึ่งเหมือนหนังจะไปในทางล้อหนังกังฟูก็ตาม แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร

The Lego Ninjago Movie จึงเป็นเพียงหนังที่ดูได้สนุกเพลินๆ มีสาระให้พอจับต้องได้บ้าง แต่ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่ 2 เรื่องก่อนสร้างไว้พอควร

Previous article[Review] The Foreigner – การเมือง-ก่อการร้าย หัวและหางของงูตัวเดียวกัน
Next article[Review] Geostorm – หนังหายนะที่ไม่หายนะอย่างที่คิด

Avatar photo
Latest posts by จุรีพร โนนจุ่น (see all)