[Review] รุ่นพี่ – เราสัมผัสกันได้มั้ย?

มี 4 อย่างที่ชอบมากใน “รุ่นพี่” หนังใหม่ของผู้กำกับ “วิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง” ก็คือ

หนึ่ง คือ ความน่ารักของน้องพลอยชมพู “ญาณนิน ภารวี ไวเกล” ที่ยอมรับเลยว่าน่ารักมากจริงๆ และเสื้อผ้าหน้าผมของเรื่องนี้ก็เสริมให้น่ารักขึ้นไปอีก แค่มองก็ยังหลง แต่…(เดี๋ยวว่ากันอีกที)

สอง คือ งานด้านภาพและ CG ที่สวยและดูอินเตอร์มาก โดยเฉพาะงานด้าน CG ที่เข้าขั้นเทพเลย เมื่อเทียบกับกับหนังไทยด้วยกัน

สาม คือ เพลง “เธอเดินเข้ามา” ที่ตอนฟังแรกๆ ก็ยังเฉยๆ แต่พอฟังในหนัง ซึ่งหนังเอาเพลงนี้มาใช้หลายครั้งมาก และทุกครั้งจะใช้ในเวอร์ชั่นและจังหวะที่แตกต่างกัน เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ตัวละครในขณะนั้น ทำให้รู้สึกว่าเพลงเพราะขึ้นและกลายเป็นชอบไปเลย

และสี่ คือ กฎของผีในเรื่อง ซึ่งหนังได้สร้างกฎการดำเนินชีวิตของผีในแบบตัวเอง อาทิ กฎที่ว่าทำไมผีเดินทะลุกำแพงได้ หรือเมื่อไหร่ที่คนจะมองเห็นผีได้ ซึ่งหนังก็ได้ใช้ประโยชน์จากกฎเกณฑ์ที่ตัวเองสร้างขึ้นพอควร แม้บางอย่างจะดูตั้งใจ๊ตั้งใจไปบ้าง แต่ก็สัมผัสได้ถึงความพยายามในการทำให้ผีในเรื่องนี้แตกต่างจากหนังผีเรื่องอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสิ่งที่น่าประทับใจหลายอย่าง แต่โดยรวมกลับรู้สึกเฉยๆ กับ “รุ่นพี่” ค่อนไปทางผิดหวังด้วย เพราะ Trailer หนังทำไว้ดีพอควร ปัญหาประการแรกเลย Acting ของเหล่านักแสดงในเรื่อง ที่อาจไม่ถึงขั้นย่ำแย่ แต่ก็ไม่มีพลังพอที่จะดึงดูดเราไว้ได้ โดยเฉพาะน้องพลอยชมพูในบท “ม่อน” สาวน้อยผู้ได้กลิ่นวิญญาณ (และได้ยินเสียงด้วย) ซึ่งถือเป็นตัวเดินเรื่องหลัก แต่ไม่สามารถแบกรับหนังไว้ได้เลย แม้ว่าม่อนจะน่ารักมาก แต่การแสดงสีหน้าท่าทางที่เหมือนจะดูหาเรื่องอยู่ตลอดเวลา บวกด้วยการพูดที่ยังดูเสียงแข็งอยู่ของพลอยชมพู กลับทำให้เริ่มรู้สึกถึงจะน่ารักแต่ก็ไม่น่าติดตามนัก เข้าใจว่าคาแรกเตอร์ของม่อนนั้นเป็นคนตรงๆ อยู่แล้ว แต่น้องพลอยชมพูเล่นได้ก้าวร้าวไปหน่อย ถ้าปรับตรงนี้ได้ อนาคตจะดีมากเลย กระนั้นไม่ใช่แค่พลอยชมพูคนเดียว ตัวละครอื่นๆ ในเรื่องก็เหมือนจะมีปัญหากับการแสดงที่ดูขาดๆ เกินๆ กันเกือบทุกคน

ปัญหาประการถัดมา คือบทเฉลยของคดีที่ดูไม่สมดุลกับร่องรอยที่ให้มาตอนแรก หนังไม่สามารถทำให้เรารู้สึก “ว้าว” กับการเฉลยตัวคนร้ายได้ แต่กลับทำให้รู้สึกเหมือนจับยัดคนร้ายและเฉลยๆ ให้จบๆ ไป เป็นความรู้สึกคล้ายๆ กับตอนดูบทสรุปของ “Now You See Me” ที่พยายามเล่นท่ายากมากเกินไป จนหาทางลงไม่ค่อยได้ อีกอย่างการที่หนังเลือกจะเล่า 2 เส้นเรื่องไปพร้อมๆ กัน คือ เส้นเรื่องระหว่างม่อนกับผีรุ่นพี่ในการสืบคดีฆาตกรรมหม่อมเจ้าหญิงเมื่อ 50 ปีก่อน กับเส้นเรื่องระหว่างม่อนกับแอ้น เพื่อนสนิทที่มาสนิทกันเพราะเป็นแกะดำของสังคมโรงเรียนคอนแวนต์เหมือนกัน ทั้ง 2 เส้นเรื่อง แทนที่จะส่งเสริมกัน แต่กลับทำให้ดูเหมือนหนัง 2 เรื่องที่ฉายสลับไปมาแทน

ประการสุดท้าย อาจไม่ใช่ปัญหาโดยตรง แต่ส่วนตัวมีความรู้สึกว่า การเปิดหน้าให้คนดูเห็นหน้า “รุ่นพี่” เร็วเกินไป ทำให้ความรู้สึกลึกลับน่าติดตามหายไปพอควร แถมรุ่นพี่ยังหน้าลอย รองพื้นผิดเบอร์มากอีกด้วย ส่วนตัวชอบการโปรโมตแรกๆ ของหนังที่ถ่ายให้เห็นแค่ตัว หรือหน้าลางๆ แต่ไม่เปิดให้เห็นว่าหน้าตารุ่นพี่เป็นไง ซึ่งถ้าหนังใช้เทคนิคนี้ไปทั้งเรื่อง มันน่าจะดีตรงที่ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนกันม่อน และทำให้ฉากเห็นหน้าจริงของรุ่นพี่ Impact มากกว่านี้

กระนั้น ถึง “รุ่นพี่” อาจไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์นัก แต่ด้วยคาแรกเตอร์ตัวละครที่ดูน่าสนใจ แถมมีโครงเรื่องเกี่ยวกับสืบคดีอีก ทำให้หนังน่าจะมีศักยภาพเพียงพอที่พัฒนาต่อเป็นซีรีส์ได้ มีช่องทีวีดิจิตอลช่องไหนสนใจบ้างมั้ย

[hr]

Avatar photo
Latest posts by จุรีพร โนนจุ่น (see all)